เมนู

23. อรรถกถาตีณิสรณคมนิยเถราปทาน

1

อปทานของท่านพระตีณิสรณคมนิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นคเร
พนฺธุมติยา
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยในภพนั้น ๆ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้า
พระนามว่าวิปัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูล ในพันธุมดีนคร ได้อุปัฏฐาก
มารดาและบิดาผู้บอด. วันหนึ่ง ท่านคิดว่า เราเมื่ออุปัฏฐากมารดาบิดาก็
จะไม่ได้บวช ถ้ากระไร เราจักยึดเอาสรณะ 3 จักพ้นจากทุคติได้ด้วย
ประการนี้ ดังนี้แล้ว จึงเข้าไปหาพระอัครสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระนามว่าวิปัสสี ชื่อว่านิสภะแล้วถือเอาสรณะ 3. ท่านรักษาสรณะ3นั้น
ตลอดแสนปี ด้วยกรรมนั้นเองจึงบังเกิดในภพชั้นดาวดึงส์ เบื้องหน้าแต่
นั้นได้ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เสวยสมบัติทั้งสอง ใน
พุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดในสกุลมหาศาลในกรุงสาวัตถี รู้เดียงสาแล้ว
อายุ 7 ขวบเท่านั้น แวดล้อมไปด้วยเด็กทั้งหลา ได้ไปยังสังฆารามแห่ง
หนึ่ง. ในที่นั้นพระเถระผู้ขีณาสพรูปหนึ่ง แสดงธรรมแก่ท่านแล้วได้ให้
สรณะทั้งหลาย. ท่านถือเอาสรณะเหล่านั้น ระลึกถึงสรณะที่คนเคยรักษา
มา เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต แล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้เธอ
ผู้บรรลุพระอรหัตแล้วอุปสมบท.
ท่านบรรลุพระอรหัตได้อุปสมบทแล้ว ระลึกถึงบุพกรรมของคน.
เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทานด้วยอำนาจโสมนัส. จึงกล่าวคำมีอาทิว่า
1. บาลี เป็น ตีณิสรณาคมนิยเถราปทาน.

นคเร พนฺธุมติยา ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มาตุปฏฺฐาโก อหุํ
เชื่อมความว่า เราอุปัฏฐากเลี้ยงดูมารดาบิดาอยู่ในพันธุมดีนคร.
บทว่า ตมนฺธการปิหิตา ความว่า ผู้อันความมืดคือโมหะปิดบัง
ไว้. บทว่า ติวิธคฺคีหิ ฑยฺหเร เชื่อมความว่า สัตว์ทั้งปวงถูกไฟ 3 กอง
คือ ไฟคือราคะ 1 ไฟคือโทสะ 1 ไฟคือโมหะ 1 เผาผลาญแล้ว
บทว่า อฏฺฐ เหตู ลภามหํ ความว่า เราได้เหตุ 8 ประการ คือ
เหตุอันเป็นปัจจัยแห่งความสุข. คำที่เหลือรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาตีณิสรณคมนิยเถราปทาน

ปัญจสีลสมาทานิยเถราปทานที่ 4 (24)


ว่าด้วยผลแห่งการรักษาเบญจศีล


[26] เวลานั้น เราเป็นคนทำงานรับจ้างอยู่ในนครจันทวดี เรามัว
ประกอบในการนำมาซึ่งการงานของผู้อื่น จึงไม่ได้บวช โลก
ทั้งหลายถูกความมืดใหญ่หลวงปิดบังแล้ว ย่อมถูกไฟ 3 กอง
เผา เราควรจะปลีกตัวออกไปด้วยอุบายอะไรหนอ.

ไทยธรรมของเราไม่มี และเราเป็นคนยากไร้ ทำงาน
รับจ้างอยู่ ถ้ากระไร เราพึงรักษาเบญจศีลให้บริบูรณ์เถิด.

เราจึงเข้าไปหาพระภิกษุชื่อนี้นสภะ ผู้เป็นสาวกของพระมุนี
พระนามว่าอโนมทัสสี แล้วได้รับสิกขาบท 5.

เวลานั้น เรานี้อายุแสนปี เรารักษาเบญจศีลให้บริบูรณ์
ตลอดเวลาเท่านั้น เมื่อเวลาใกล้ตายมาถึงเข้า ทวยเทพย่อม
ยังเราให้ชื่นชม (เชื้อเชิญเรา) ว่า ท่านผู้นิรทุกข์ รถอันเทียม
ด้วยม้าพันหนึ่งนี้ปรากฏแล้วเพื่อท่าน.

เมื่อจิตดวงสุดท้ายเป็นไป เราได้ระลึกถึงศีลของเรา ด้วย
กรรมดีที่ได้ทำแล้วนั้น เราได้ไปสู่ภพดาวดึงส์ ได้เป็น
จอมเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก 30 ครั้ง แวดล้อมด้วย
นางอัปสรทั้งหลาย เสวยสุขอันเป็นทิพย์อยู่.

และได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 75 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้า
ประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณานับมิได้.

เราอันกุศลมูลตักเตือนแล้วเคลื่อนจากเทวโลก มาเถิด
ในตระกูลพราหมณ์มหาศาลอันมั่งคั่งในนครเวสาสี.